วรพล ส.เดชะพันธ์ วัย 22 ปี จากบุรีรัมย์ พร้อมหวนคืนสังเวียนพบฮิโรกิ คาซาฮารา ดีกรีแชมป์ชู้ตบ็อกซิ่ง 3 สมัยจากญี่ปุ่น ในศึก ONE ลุมพินี 53 ที่เวทีลุมพินี วันศุกร์ที่ 23 ก.พ.
วรพล อุ่นเรือน หรือ ‘ต้อม’ นักมวยซ้ายจากบุรีรัมย์ สืบทอดศาสตร์มวยไทยจากค่ายไผ่ดงยิมส์ ซึ่งเป็นค่ายของพ่อตั้งแต่อายุ 8 ปี พร้อมสร้างชื่อในวงการด้วยความหมายของชื่อที่ว่า ‘ผู้มีกำลังเป็นหนึ่ง’
วรพล ตัดสินใจทุ่มเทเพื่ออาชีพนักมวยหลังเรียนจบชั้นมัธยม โดยมีครอบครัวเป็นกำลังใจข้างหลัง และสุดท้ายเลือกย้ายมากรุงเทพฯ พร้อมเข้าฝึกที่ค่ายมวย ส.เดชะพันธ์ เพื่อก้าวต่อไปในเส้นทางมวยไทย
วรพล ได้ทำการฝึกซ้อมอย่างหนักในกรุงเทพฯ ฝีมือพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงได้ออกเดินทางไปสะสมประสบการณ์ต่างประเทศทั้งที่จีนและออสเตรเลีย พร้อมทั้งลงแข่งขันในศึก ONE ลุมพินี จึงยกระดับเขาสู่นักสู้มืออาชีพ
วรพล ส.เดชะพันธ์ กู้คืนศักดิ์ศรีด้วยการชนะ ‘สลาตัน จิตรเมืองนนท์’ ในศึก ONE ลุมพินี 30 คว้าดับเบิลโบนัส 700,000 บาท กลับมาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
“ไฟต์ที่สองผมเอาชนะน็อกยก 2 สลาตัน มาได้ ผมรู้สึกดีใจมากที่สามารถทำผลงานได้ดีในรายการระดับโลก และคว้าเงินโบนัสได้ถึง 700,000 บาท ตอนนั้นผมตกใจมาก ไม่คิดไม่ฝันว่า บอสชาตรี จะให้รางวัลก้อนโตขนาดนี้ ผมแบ่งเงินส่วนใหญ่ให้พ่อแม่เก็บเอาไว้ อีกส่วนนำไปซื้อทองเก็บสะสม และที่เหลือนำไปฝากธนาคารเพื่อใช้เป็นประโยชน์ในวันข้างหน้าครับ”
“ผมศึกษา ฮิโรกิ มาอย่างละเอียด เขามีอาวุธหมัดที่หนักและรุนแรง และถ้าวัดที่ความเร็วผมยังเป็นรองเขาอยู่เล็กน้อย ทางทีมงานจึงได้ติวเข้มเรื่องสเตปเท้าให้ผมมากเป็นพิเศษ มีการฝึกหลบออกอาวุธที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ยืนนิ่งอยู่กับที่เพราะจะตกเป็นเป้านิ่งของคู่ต่อสู้ได้”
“ส่วนจุดอ่อนของ ฮิโรกิ คือเวลาเตะแล้วจะเผลอป้องกันตัวไม่ดี ถ้าผมเดิมลุยโจมตีซ้ำต่อเนื่องน่าจะส่งผลให้เขามีอาการได้ ไฟต์นี้ผมเสริมมาทั้งลูกเตะขา เตะลำตัว และจังหวะเข้าวงในพร้อมมีศอกให้เห็นแน่นอน ผมคิดว่าไฟต์นี้ตัวเองจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ และมีโอกาสลุ้นถึงขั้นปิดเกมน็อกได้เลยครับ”